ทำความรู้จัก เตียงผู้ป่วย และวิธีเลือกซื้อ เตียงคนไข้ ได้ตรงใจ ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน คุ้มค่าเงินสูงสุด

เตียงผู้ป่วย เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับผู้ที่ไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ มีน้อยคนที่จะรู้ว่า เตียงคนไข้ แต่ละแบบนั้นมีรายละเอียด คุณสมบัติการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป

ถ้าหากเรารู้ถึงคุณสมบัติของ เตียงคนไข้ ว่ามีอะไรบ้าง ก็จะเป็นประโยชน์ในการเลือกซื้อ เตียงคนป่วยได้อย่างตอบโจทย์และคุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่ายไป ว้นนี้น้องฟา (Fasicare) จะอาสาพาคุณผู้อ่านไปทำความรู้จักกับ เตียงผู้ป่วย แบบต่างๆ กันค่ะ

ก่อนอื่นมาดู Check list เบื้องต้นในการเลือกซื้อ เตียงผู้ป่วย สิ่งที่จะต้องพิจารณาก็คือ

ㆍผู้ป่วยสามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน ลักษณะของผู้ป่วยจะทำให้เลือกซื้อ เตียงผู้ป่วย ได้ง่ายขึ้น

ㆍเตรียมงบประมาณ เนื่องจาก เตียงผู้ป่วย ที่มีฟังก์ชั่นเยอะ ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย

ㆍฟังก์ชั่นการใช้งานของเตียง มีกี่รูปแบบ เหมาะสมกับผู้ป่วยหรือไม่

ㆍขนาดของ เตียงผู้ป่วย เคลื่อนย้ายสะดวกหรือไม่ สามารถพับเก็บเมื่อไม่ต้องการใช้งานได้หรือไม่

ㆍมาตรฐานความปลอดภัย ลักษณะราวกันตก มีทั้งแบบธรรมดา แบบปีกนก รวมถึงการรับน้ำหนักของผู้ป่วย

ㆍวัสดุที่ใช้ในการผลิต เตียงคนไข้ ผลิตจากวัสดุอะไร มีความแข็งแรงมากน้อยแค่ไหน ดูแลรักษาง่ายหรือไม่

ㆍอุปกรณ์เสริมที่มาพร้อมเตียง ทางร้านมีอะไรให้มาบ้าง ต้องซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมหรือไม่

ㆍมีการรับประกันจากผู้ขายและได้รับมาตรฐานจาก อย. หรือมาตรฐาน ISO 13485 (มาตรฐานคุณภาพการผลิตเครื่องมือแพทย์) หรือไม่ เพราะถ้าหากเตียงมีปัญหา ก็สามารถสอบถามจากผู้ขายได้

เตียงผู้ป่วย แบ่งตามฟังก์ชั่นการใช้งาน

เตียงผู้ป่วย แบบ 2 ไกร์ และ 3 ไกร์

เตียงผู้ป่วย หรือ เตียงคนไข้ hospital bed นั้น ถ้าดูแค่ภายนอกจะพบว่ามีรูปแบบที่คล้ายกัน แต่จริงๆ แล้วจะมีความแตกต่างกันที่ฟังก์ชั่นการใช้งาน
แบ่งตามระบบแบบ 2 ไกร์ และ 3 ไกร์ ซึ่งไกร์นั้นก็หมายถึงฟังก์ชั่นการใช้งานของเตียงนั่นเอง

เตียงผู้ป่วย 2 ไกร์ (2 ฟังก์ชั่น)

ㆍสามารถปรับระดับช่วงหลังได้ 0-75°

ㆍสามารถปรับช่วงขาได้ 0-40°

เตียงผู้ป่วย 3 ไกร์ (3 ฟังก์ชั่น)

ㆍสามารถปรับระดับช่วงหลังได้ 0-75°

ㆍสามารถปรับระดับช่วงขาได้ 0-40°

ㆍสามารถปรับระดับความสูง-ต่ำของเตียงได้ 40 – 72 ชม.

การปรับระดับสูง-ต่ำ จะช่วยให้ผู้ดูแลสะดวกในการดูแลผู้ป่วยไม่ว่าจะเช็ดตัว ป้อนอาหาร หรือทำการนวด ทำให้ผู้ดูแลไม่ต้องก้มๆ เงยๆ ให้ปวดหลัง

เตียงผู้ป่วย แบบ 5 ไกร์ (5 ฟังก์ชั่น)

เตียงผู้ป่วย 5 ไกร์ เป็น เตียงคนป่วย ที่มีฟังก์ชั่นที่สามารถปรับได้ 5 รูปแบบ จึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้และมีน้ำหนักตัวมาก เตียงผู้ป่วย แบบ 5 ไกร์ จะช่วยให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตได้สะดวกสบาย และผู้ดูแลก็ไม่เหนื่อยจนเกินไปเนื่องด้วยฟังก์ชั่นที่หลากหลายกว่า เตียงผู้ป่วย แบบ 2 ไกร์ และ 3 ไกร์ อาทิเช่น ปรับเป็นทำนั่งสำหรับกินข้าวได้อย่างสะดวก ตะแคงพลิกตัวเปลี่ยนท่านอนได้ เป็นต้น

เตียงผู้ป่วย 5 ไกร์ จะแบ่งเป็น 2 แบบให้เลือก ซึ่งการปรับฟังก์ชั่นจะแตกต่างกันไปตามลักษณะของผู้ป่วย ซึ่งทั้ง 2 แบบนั้นจะมีจุดที่แตกต่างตรงที่

แบบที่ 1 จะสามารถปรับความลาดเอียงศรีษะและเท้าได้

แบบที่ 2 จะสามารถปรับเป็นท่านั่ง สำหรับขับถ่าย และสามารถปรับตะแคงข้างช้ายและขวา ช่วยในการเปลี่ยนท่านอนของผู้ป่วยได้

เตียงผู้ป่วย 5 ไกร์ (5 ฟังก์ชั่น) แบบที่ 1 สามารถปรับระดับได้ 5 แบบดังนี้

เตียงแบบที่ 1 เตียงคนไข้ ที่ออกแบบมาให้ปรับความลาดเอียงช่วงศีรษะและเท้าได้ รวมถึงปรับระดับความสูง-ต่ำได้ ช่วยให้ง่ายต่อผู้ดูแลในการนวด หรือ ทายาให้ผู้ป่วยได้อย่างสะดวก

  1. สามารถปรับช่วงหลังได้ 0-85°
  2. สามารถปรับช่วงขาได้ 0-20°
  3. ปรับความลาดเอียงช่วง 0-12°
  4. ปรับความลาดเอียงช่วงปลายเท้า 0-12°
  5. ปรับระดับความสูง-ต่ำของเตียงได้ 40-70°

เตียงผู้ป่วย 5 ไกร์ (5 ฟังก์ชั่น) แบบที่ 2 จะสามารถปรับระดับได้ 5 แบบดังนี้

เตียงแบบที่ 2 เหมาะกับผู้ป่วยที่ไม่สามารถขับถ่ายได้เอง มีช่องเปิด-ปิดสำหรับขับถ่ายได้โดยเฉพาะ และเตียงยังออกแบบมาให้สระผมให้ผู้ป่วยได้อีกด้วย

  1. สามารถปรับช่วงหลังได้ 0-85°
  2. สามารถปรับช่วงขาได้ 0-20°
  3. ปรับเป็นท่านั่งได้ 0-60°
  4. ปรับตะแคงซ้ายได้ 45°
  5. ปรับตะแคงขวาได้ 45°

เตียง 5 ไกร์ แม้ว่าจะมีราคาสูงกว่าเตียงรุ่นอื่นๆ แต่ก็มีข้อได้เปรียบตรงที่มีฟังก์ชั่นที่หลากหลายกว่า สามารถปรับเป็นท่านั่งได้ ช่วยให้ผู้ป่วยกินข้าวได้อย่างสะดวก มีช่องเปิด-ปิดสำหรับขับถ่ายและสระผมได้ในเตียงเดียว ง่ายทั้งต่อตัวผู้ป่วยเอง และผู้ที่ดูแลผู้ป่วย ช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

เตียงระบบมือหมุน และ เตียงไฟฟ้าปรับระดับได้

เตียงผู้ป่วย Hospital Bed ทั้ง 3 แบบที่กล่าวมานั้นยังแบ่งเป็นแบบระบบมือหมุนและระบบไฟฟ้าที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ตัวคนไข้และผู้ดูแลคนไข้อีกด้วย ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่น ผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อได้ตามงบประมาณที่มี

ㆍ เตียงระบบมือหมุน จำเป็นต้องมีผู้ดูแลในการปรับฟังก์ชั่นการใช้งานของเตียง

ㆍ เตียงไฟฟ้าปรับระดับได้ เป็นระบบที่ผู้ใช้งานปรับพังก์ชั่นการใช้งานได้เอง สะดวกสบายเพราะสามารถใช้รีโมทปรับฟังก์ชั่นการใช้งานได้

ถ้าหากมีงบประมาณที่กำจัดและผู้ป่วยมีผู้ดูแลอยู่แล้วก็สามารถเลือกแบบระบบมือหมุนได้ แต่ถ้าคนไข้พอที่จะช่วยเหลือตัวเองได้บ้างและมีงบประมาณที่สูงขึ้นอีกนิด เตียงไฟฟ้าปรับระดับได้ ก็ตอบโจทย์ในเรื่องความสะดวกสบายได้เป็นอย่างดีทีเดียว เตียงไฟฟ้าปรับระดับได้ ผู้ป่วยสามารถเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้เองอย่างรวดเร็ว ไม่เปลืองแรง สะดวกต่อผู้ดูแลผู้ป่วยอีกด้วย

ราคาโดยประมาณของ เตียงผู้ป่วย แบบมือหมุน และแบบปรับระดับไฟฟ้า ของ Fasicare

ㆍเตียงผู้ป่วยมือหมุน 2 ไกร์ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 9,000 – 19,999 บาท

ㆍเตียงผู้ป่วยไฟฟ้า 2 ไกร์ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 24,000 – 30,000 บาท

ㆍเตียงผู้ป่วยมือหมุน 3 ไกร์ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 13000 – 25000 บาท

ㆍเตียงผู้ป่วยไฟฟ้า 3 ไกร์ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 30,000 – 45,000 บาท

ㆍเตียงผู้ป่วยมือหมุน 5 ไกร์ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 30,000 – 35,000 บาท

ㆍเตียงผู้ป่วยไฟฟ้า 5 ไกร์ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 50,000 – 70,000 บาท

ความปลอดภัยในการใช้งาน

นอกเหนือจากฟังก์ชั่นการใช้งานที่กล่าวมาแล้ว ยังมีข้อสังเกตคือ ความปลอดภัยในการใช้งานของ เตียงผู้ป่วย จะต้องมีความแข็งแรง และความมั่นคง และที่สำคัญคือราวสไลด์ หรือ ราวกันตก ซึ่งก็มีทั้งแบบธรรมดาและแบบปีกนก ต้องดูว่าสามารถใช้งานได้สะดวก เหมาะสมกับผู้ป่วยหรือไม่ ผู้ป่วยบางท่านอาจต้องการรับการดูแลที่มากกว่าผู้ป่วยบางราย อาจจะต้องได้รับการนวด หรือทายา ก็จะเหมาะกับเตียงที่มีราวสไลด์แบบปีกนก เพราะสามารถพับแบบแยกส่วนได้

ราวสไลด์มี 3 รูปแบบด้วยกัน

1 ราวสไลด์แบบธรรมดา หรือแบบซี่

– ราวสไลด์แบบนี้พบเห็นได้บ่อยใน เตียงผู้ป่วย ทั่วไป

– ราวจับผลิตจากอะลูมิเนียม ส่วนซี่จะผลิตจากสแตนเลส แข็งแรง ทนทาน

– ช่วยกันผู้ป่วยตกเตียง เวลาที่จะใช้งานจะต้องเลื่อนออกทั้งแถบ

2 ราวสไลด์แบบปีกนก

– เตียงคนไข้ ที่มีราวสไลด์แบบปีกนกจะมี 4 ส่วน

– ด้านบนหัวเตียง 2 ปีก และท้ายเตียงอีก 2 ปีก

– ราวสไลด์แบบปีกนกจะให้เรื่องความสวยงามและสะดวกในการใช้งาน

– สามารถพับด้านใดด้านหนึ่งลงเพื่อดูแลป่วยได้

3 ราวสไลด์แบบไม้

– เตียงผู้ป่วย ราวสไลด์ดีไซน์ลายไม้ให้ความรู้สึกคล้ายเฟอร์นิเจอร์ เสริมความสวยงามให้กับเตียง

– ผู้ป่วยไม่รู้สึกว่าเป็นเตียงสำหรับคนป่วย ช่วยให้ผู้ป่วยรู้ลึกดีขึ้น

– ช่วยให้ผู้ป่วยไม่กังวลกับอาการเจ็บป่วยจนเกินไป ราวสไลด์ใช้งานแบบเลื่อนขึ้น-ลง

วัสดุในการผลิต เตียงผู้ป่วย

ในเรื่องของวัสดุการผลิตเตียงนั้น ส่วนใหญ่โครงสร้างจะเป็นเหล็กพ่นสีอบเงา ที่ช่วยกันสนิม ให้ความแข็งแรง ทนทาน ส่วนหัวเตียงและท้ายเตียง จะมีให้เลือกทั้งแบบวัสดุ ABS ที่มีดีไซน์สวยงาม ให้ความรู้สึกแบบเฟอร์นิเจอร์ อาทิ

1 เตียงคนไข้ แบบ Home Care

– หัวเตียงและท้ายเตียงทำจากไม้จริง หรือวัสดุหุ้มลายไม้ให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย

– ช่วยปลอบประโลมให้ผู้ป่วยรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลายในระหว่างการพักรักษาตัว

– ช่วยให้ผู้ป่วยไม่รู้สึกเศร้ากับภาวะเจ็บป่วยจนเกินไปนัก

2 เตียงคนไข้วัสด ABS

– วัสดุ ABS นำมาผลิตเป็นหัวเตียง ท้ายเตียง ซึ่งก็จะให้ความแข็งแรง ทนทาน

– มีน้ำหนักเบาและดูแลรักษาง่าย อีกทั้งมีราคาย่อมเยา

– เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัดและยังได้สินค้าที่ดีมีคุณภาพ

อุปกรณ์เสริมที่มาพร้อมเตียง

บางร้านมีการจัดเซตสินค้า เตียงคนไข้ หรือ เตียงผู้ป่วยไฟฟ้า ที่แถมอุปกรณ์มาให้ครบในราคาเดียว ทำให้ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มอีก ช่วยประหยัดงบในการซื้อเตียง หรือถ้าหากต้องซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมเอง น้องฟา (Fasicare) แนะนำว่าต้องเช็กเรื่องอุปกรณ์เสริม เช่น เสาน้ำเกลือ ถาดคร่อมเตียง หรือเบาะนอนนั้นสามารถใช้งานร่วมกันกับเตียงได้หรือไม่ เพราะบางรุ่นถูกออกแบบมาพิเศษ อาจทำให้ไม่สามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ได้ การเลือกซื้อแบบเป็นเซต อาจจะเพิ่มเงินขึ้นอีกนิด แต่ก็สะดวกและคุ้มค่าเงินที่จ่ายไป

อุปกรณ์เสริมหลักๆ ที่จำเป็นต่อผู้ป่วย

1 เสาน้ำเกลือ มี 2 แบบ

  • เสาน้ำเกลือแบบที่เสียบกับข้างเตียงได้ ไม่เปลืองพื้นที่
  • เสาน้ำเกลือที่มีล้อ สามารถเคลื่อนย้ายได้ ผู้ป่วยสามารถไปทำธุระพร้อมกับเสาน้ำเกลือได้

2 ถาดอาหาร

  • ถาดคร่อมเตียง ใช้วางพาดกับเตียง สำหรับมื้ออาหารของผู้ป่วย
  • โต๊ะพร้อมถาดอาหารแบบมีล้อ ปรับระดับสูง-ต่ำได้เคลื่อนย้ายได้สะดวก

3 เบาะนอน

ㆍเบาะผ้าอ๊อกฟอร์ด ภายในเป็นกากมะพร้าวและฟองน้ำ ข้อดีคือราคาประหยัด
ㆍเบาะ PVC ภายในเป็นใยสังเคาระห์ ดูแลรักษาและทำความสะอาดง่าย
ㆍเบาะ PVC ภายในยางพารา ข้อดีคือมีความยืดหยุ่นและคืนตัวได้ดี แข็งแรง ทนทาน ช่วยลดอาการปวดหลัง

มาตรฐานและการรับประกันจากผู้ขาย

อีกหนึ่งข้อสังเกตเวลาซื้อ เตียงคนป่วย ไม่ว่าจะเป็นที่ร้านค้า หรือจากเว็บไชต์ก็คือ สินค้าต้องได้รับมาตรฐานจาก อย. หรือมาตรฐาน ISO 13485 (มาตรฐานคุณภาพการผลิตเครื่องมือแพทย์) ถ้าหากมีการรับรอง ผู้ซื้อก็มั่นใจได้ว่าได้รับสินค้าที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน และอย. อย่าลืมสอบถามเรื่องการรับประกันจากผู้ขายหรือบริการหลังการขายด้วย เพราะถ้าหากใช้ไปนานๆ เวลาสินค้ามีปัญหา จะได้รับการดูแลหลังการขายจากทางบริษัท สำหรับ เตียงผู้ป่วย เตียงผู้ป่วยไฟฟ้า ของ Fasicare นั้นมีมาตรฐานจาก อย. และมาตรฐาน ISO 13485 สำหรับ เตียงผู้ป่วย ทุกตัว รวมถึงการบริการหลังการขายที่ทำให้ลูกค้ามั่นใจใสินค้าและบริการที่ดีอย่างแน่นอน โดยจะมีรายละเอียดดังนี้

การรับประกัน เตียงผู้ป่วย จากบริษัท Fasicare

– เตียงผู้ป่วยมือหมุน รับประกันโครงสร้าง 3 ปี มือหมุน/ล้อ 1 ปี

– เตียงผู้ป่วยไฟฟ้า รับประกันโครงสร้าง 3 ปี มือหมุน/มอเตอร์/ล้อ/รีไมท 1 ปี

เตียงผู้ป่วยที่ใช่ เลือกยังไงก็ไม่พลาด

คุณผู้อ่านที่เพิ่งจะศึกษาเรื่อง เตียงผู้ป่วย อาจจะเกิดคำถามว่า เตียงคนป่วย มีหลายแบบ หลายฟังก์ชั่น ถ้าหากจะซื้อต้องเลือกแบบไหนที่จะเหมาะสมกับผู้ป่วยที่สุด น้องฟา (Fasicare) จะพาไปดูตารางเปรียบเทียบกันค่ะ

น้องฟา (Fasicare) หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการเลือกซื้อ เตียงผู้ป่วย ที่มีรูปแบบและฟังก์ชั่นได้เหมาะสมกับผู้ป่วย คุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่ายไป ก่อนเลือกซื้ออย่าลืม Check list ตามบทความด้วยนะคะ เพราะการซื้ออุปกรณ์เหล่านี้ ไม่ได้ซื้อกันบ่อยๆ ซื้อทั้งทีจึงต้องเลือกสิ่งที่ดี เหมาะสมกับผู้ใช้งานมากที่สุด ถ้าชอบบทความที่มีสาระดีๆ แบบนี้ น้องฟาฝากกด Like Facebook Page เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ ด้วยนะคะ