สำหรับมือใหม่ที่กำลังกังวลอยู่ว่าจะเลือกเครื่องสำหรับดูดเสมหะแบบให้เหมาะสมกับผู้ป่วย วันนี้ Fasicare มีวิธีแนะนำในการเลือกเครื่องดูดเสมหะ สำหรับผู้ป่วย ให้ตอบโจทย์การใช้งานเพื่อความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิตประจำวัน จะมีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย
ลักษณะภายนอกและการใช้งานทั่วไป
ประการแรก ควรเลือกพิจรณาจากลักษณะภายนอกและการใช้งานทั่วไป ได้แก่
ชนิดของเครื่อง
ชนิดของเครื่อง มีทั้งแบบที่ใช้ในโรงพยาบาลและแบบพกพา
- แบบที่ใช้ในโรงพยาบาล : เหมาะสำหรับการใช้งานในสถานพยาบาล เพราะมีแรงดูดสูงและสามารถทำงานได้ต่อเนื่อง
- แบบพกพา : เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการการดูแลที่บ้านหรือในที่ ที่ไม่สามารถเข้าถึงโรงพยาบาลได้ มีขนาดเล็กน้ำหนักเบา พกพาสะดวก
แรงดูด (Suction Pressure)
แรงดูด (Suction Pressure) ที่เหมาะสมกับสภาพของผู้ป่วย เช่น ผู้ป่วยที่มีความต้องการพิเศษอาจต้องใช้แรงดูดที่มากกว่าปกติ ควรเลือกเครื่องที่สามารถปรับระดับแรงดูดได้ตามความจำเป็น โดยทั่วไปค่าแรงดูดที่เหมาะสมคือ
- ผู้ใหญ่: 100–150 mmHg
- เด็ก: 80–120 mmHg
- ทารก: 60–80 mmHg
ระบบการทำงานของเครื่อง
ระบบการทำงานของเครื่อง ควรเลือกเครื่องที่ใช้งานง่ายและมีระบบที่เหมาะสม เช่น เครื่องที่ทำงานโดยใช้ไฟฟ้าหรือแบตเตอรี่ โดยเฉพาะสำหรับการใช้งานที่บ้าน เครื่องควรมีระบบสำรองพลังงานในกรณีไฟดับหรือเกิดเหตุฉุกเฉิน
ความสะดวกในการพกพาและเคลื่อนย้าย
นอกจากนี้ ควรคำนึงถึงความสะดวกในการพกพาและเคลื่อนย้าย หากต้องการนำไปใช้ในสถานที่ต่าง ๆ หรือในการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน ควรเลือกเครื่องดูดที่มีน้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด และมีหูจับหรือสายสะพายเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย
การบำรุงรักษาและทำความสะอาด
การบำรุงรักษาและทำความสะอาด ควรเลือกเครื่องที่สามารถถอดชิ้นส่วนและทำความสะอาดได้ง่าย มีการเปลี่ยนสายดูดและภาชนะรองเสมหะได้สะดวก และควรตรวจสอบว่ามีอะไหล่หรืออุปกรณ์เสริมที่สามารถหาซื้อได้ง่ายในท้องตลาด
ความเงียบ
ความเงียบของเครื่องเสียงจากเครื่องสำหรับดูดเสมหะอาจเป็นปัญหาได้ในบางสถานการณ์ ควรเลือกเครื่องที่ทำงานได้เงียบเพื่อไม่ให้รบกวนผู้ป่วยหรือผู้ดูแล
มาตรฐานความปลอดภัย
เลือกเครื่องที่มีมาตรฐานความปลอดภัย โดยผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย เช่น CE (มาตรฐานยุโรป) หรือ FDA (มาตรฐานสหรัฐอเมริกา) เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยและมีคุณภาพ
การป้องกันแบคทีเรีย
ควรเลือกเครื่องที่มีระบบการป้องกันแบคทีเรีย เพื่อการป้องกันการติดเชื้อของผู้ป่วย โดยช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อโรค เช่น มีตัวกรองแบคทีเรีย จะช่วยป้องกันเชื้อโรคและแบคทีเรียจากการกระจายออกสู่อากาศหรือกลับเข้าไปในตัวเครื่อง ตัวกรองนี้จะต้องเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้คงประสิทธิภาพสูงสุด
เลือกแบบที่มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา
ขนาดที่เล็กและน้ำหนักเบา ทำให้ง่ายต่อการพกพาไปที่ต่าง ๆ สะดวกในการเก็บ ประหยัดพลังงาน เหมาะกับผู้ป่วยที่มีร่างกายบอบบางหรือมีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหวจะรู้สึกสะดวกสบายมากขึ้นในการใช้เครื่องขนาดเล็ก
กระบอกบรรจุของแข็งที่มีความแข็งแรง
กระบอกบรรจุของแข็งที่มีความแข็งแรง จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการใช้งาน ช่วยให้การใช้งานเครื่องนั้นมีประสิทธิภาพ เพราะวัสดุจะมีความแข็งแรง เช่น พลาสติกเกรดการแพทย์หรือโพลีคาร์บอเนต ซึ่งสามารถทนต่อแรงกระแทกและความร้อนได้ดี ทำให้ใช้งานได้นานและไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย ปลอดภัยเพราะมีการออกแบบที่ปิดสนิท ลดความเสี่ยงต่อการรั่วไหลของเสมหะหรือของเหลวภายใน ทำให้ผู้ใช้งานและผู้ดูแลไม่ต้องกังวลเรื่องการปนเปื้อนหรือการสัมผัสเชื้อโรค และทนต่อการดูดของเหลวและความร้อน
เลือกแบบที่อุปกรณ์สามารถใช้ได้หลายจุดประสงค์
เลือกแบบที่อุปกรณ์สามารถใช้ได้หลายจุดประสงค์ ทั้งในโรงพยาบาล สถานพยาบาลเคลื่อนที่ หรือการใช้งานที่บ้าน โดยเครื่องแบบมัลติฟังก์ชัน (Multifunction) สามารถนำไปใช้ได้กับหลายประเภทของผู้ป่วยและสภาพการใช้งาน เช่น ใช้สำหรับดูดเสมหะและของเหลวจากทางเดินหายใจ ดูดเลือดและของเหลวในระหว่างการผ่าตัด ดูดหนองหรือของเหลวที่ติดเชื้อ ดูดของเหลวจากทางเดินอาหาร ใช้ในกรณีฉุกเฉินหรือในสถานพยาบาลเคลื่อนที่สามารถใช้งานทั้งระบบไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ปรับแรงดูดได้หลายระดับ
เลือกเครื่องที่ใช้แบตเตอรี่
การเลือกที่ใช้แบตเตอรี่ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยเฉพาะในกรณีฉุกเฉินหรือสถานการณ์ที่ไฟฟ้าไม่สามารถใช้งานได้ กรณีที่ไฟฟ้าดับหรือเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น อุบัติเหตุ หรือกรณีผู้ป่วยที่ต้องการการดูดเสมหะในสถานที่ที่ไม่มีไฟฟ้า เช่น ขณะเคลื่อนย้ายผู้ป่วย เครื่องดูดที่มีแบตเตอรี่สำรองจะทำให้การดูแลรักษายังสามารถดำเนินต่อได้อย่างไม่สะดุด การใช้งานในภาวะฉุกเฉินเช่นนี้จำเป็นมากสำหรับการช่วยเหลือชีวิตของผู้ป่วยที่มีปัญหาทางเดินหายใจ หรือไม่สามารถหายใจได้เอง โดยควรพิจารณาจาก
ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่
ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ ตรวจสอบว่าแบตเตอรี่ของเครื่องสามารถใช้งานได้กี่ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง เครื่องที่มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานจะช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จแบตเตอรี่บ่อย ๆควรเลือกแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้อย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้มั่นใจว่าคุณสามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่องในกรณีที่ไฟฟ้าขัดข้อง
ความเร็วในการชาร์จแบตเตอรี่
ความเร็วในการชาร์จแบตเตอรี่ เลือกเครื่องที่มีระบบชาร์จเร็วเพื่อให้สามารถนำเครื่องกลับมาใช้งานได้โดยเร็วหลังจากแบตเตอรี่หมดหากเป็นไปได้ ควรเลือกเครื่องที่สามารถชาร์จและใช้งานพร้อมกันได้ เพื่อไม่ต้องหยุดพักการใช้งานระหว่างชาร์จแบตเตอรี่
ความทนทานและคุณภาพของแบตเตอรี่
ความทนทานและคุณภาพของแบตเตอรี่ ควรเลือกเครื่องที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Lithium-ion) ซึ่งเป็นประเภทแบตเตอรี่ที่มีความทนทานและสามารถชาร์จไฟได้หลายครั้งโดยไม่เสื่อมสภาพเร็วแบตเตอรี่คุณภาพดีจะช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องสำหรับดูดเสมหะและช่วยให้ใช้งานได้อย่างมั่นใจ
ข้อดีของการใช้เครื่องสำหรับดูดเสมหะ
ข้อดีของการใช้เครื่องสำหรับดูดเสมหะ ได้แก่
ช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น
ช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีเสมหะจำนวนมากหรือติดขัดในการหายใจเอง เช่น ผู้ป่วยปอดบวม หลอดลมอักเสบ หรือผู้ป่วยติดเตียง การทำให้ทางเดินหายใจโล่งจะช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนที่เข้าสู่ร่างกาย ลดภาวะหายใจลำบากหรือขาดออกซิเจนได้
ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในทางเดินหายใจ
ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในทางเดินหายใจ เพราะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค เช่น แบคทีเรียและไวรัส การดูดเสมหะออกเป็นประจำจะช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อที่ปอดหรือทางเดินหายใจส่วนล่าง เช่น ปอดอักเสบ นอกจากนี้ยังลดโอกาสการเกิดการอักเสบและการสะสมของเชื้อโรคในระบบทางเดินหายใจได้
ช่วยในการฟื้นตัวของผู้ป่วยหลังการผ่าตัด
ช่วยในการฟื้นตัวของผู้ป่วยหลังการผ่าตัด โดยเฉพาะการผ่าตัดบริเวณทรวงอกหรือช่องท้อง เพราะผู้ป่วยมักมีปัญหาการขับเสมหะออกเองเนื่องจากความเจ็บปวด ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้นและลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด
ช่วยลดความเสี่ยงจากการสำลัก
ช่วยลดความเสี่ยงจากการสำลักในผู้ป่วยบางราย เช่น ผู้ป่วยที่มีปัญหาการกลืน หรือผู้ป่วยที่ใส่ท่อช่วยหายใจ อาจมีความเสี่ยงในการสำลักอาหารหรือเสมหะ การใช้เครื่องดูดเสมหะจะช่วยขจัดสิ่งเหล่านี้ออกจากทางเดินหายใจ ลดความเสี่ยงต่อการสำลักและการเกิดภาวะปอดอักเสบจากการสำลัก
ช่วยในการดูแลผู้ป่วยติดเตียง
ช่วยในการดูแลผู้ป่วยติดเตียง เนื่องจากไม่สามารถขับเสมหะหรือของเหลวออกจากร่างกายได้เอง การใช้เครื่องสำหรับดูดเสมหะจึงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการขจัดเสมหะที่สะสมอยู่ในทางเดินหายใจ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดการอุดตันของทางเดินหายใจหรือการสะสมของเสมหะจนเกิดการติดเชื้อ นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ดูแลสามารถดูแลผู้ป่วยได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น
เหมาะสำหรับผู้ป่วยเด็กและผู้สูงอายุ
เหมาะสำหรับผู้ป่วยเด็กและผู้สูงอายุ สำหรับเด็กที่ยังไม่สามารถขับเสมหะออกเองได้ การใช้เครื่องสำหรับดูดเสมหะเป็นวิธีที่ช่วยให้เด็กหายใจได้สะดวกขึ้น และลดความเสี่ยงในการเกิดการอุดตันของทางเดินหายใจ และในผู้สูงอายุที่มักมีปัญหากับระบบการขับเสมหะ ช่วยให้หายใจได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในทางเดินหายใจ และช่วยให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น
ป้องกันภาวะแทรกซ้อน
ช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีปัญหาทางเดินหายใจหรือโรคเรื้อรัง ช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อที่ปอดหรือทางเดินหายใจส่วนล่าง เช่น ปอดอักเสบ ป้องกันการเกิดภาวะปอดอุดกั้น ลดความเสี่ยงจากการสำลัก และภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการดูแลที่ไม่เหมาะสม จึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการดูแลรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาทางเดินหายใจ
ช่วยในการวินิจฉัยโรค
ช่วยในการช่วยในการวินิจฉัยโรค และตรวจหาภาวะที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ ในผู้ป่วยที่มีอาการเรื้อรัง เช่น หอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หรือโรคปอดบวม การตรวจสอบลักษณะของเสมหะ (เช่น สีหรือความข้น) สามารถช่วยให้แพทย์วินิจฉัยได้ว่าผู้ป่วยมีภาวะแทรกซ้อนหรือการติดเชื้อหรือไม่
เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ยา
เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ยา เช่น ยาที่ใช้ในการรักษาโรคหอบหืดหรือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ดังนั้นการใช้เครื่องนี้ก่อนการให้ยา สามารถช่วยให้ทางเดินหายใจโล่ง ทำให้ยาสามารถเข้าถึงพื้นที่ที่ต้องการรักษาได้ดียิ่งขึ้น
แนะนำเครื่องสำหรับดูดเสมหะ Yuwell ที่ Fasicare
แนะนำเครื่องดูดเสมหะ Yuwell ที่ Fasicare ที่มีความแข็งแรงทนทาน ทำความสะอาดง่าย และมีประสิทธิภาพในการใช้งานสูง สามารถใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก ใช้งานได้ทั้งในโรงพยาบาล ห้องฉุกเฉิน หรือใช้ในบ้านก็ได้ ตัวเครื่องมีระบบป้องกันการปนเปื้อนของแบคทีเรีย อีกหนึ่งจุดเด่นของ Yuwell คือ ราคาที่จับต้องได้ มีอะไหล่พร้อมซ่อมบำรุง และมีการรับประกันจากทางแบรนด์โดยตรงในประเทศไทย