การเลือกซื้อที่นอนลมกันแผลกดทับนั้นสำคัญมาก
การเลือกที่นอนลมป้องกันแผลกดทับเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพของผู้ป่วยโดยตรง โดยเฉพาะผู้ที่ต้องนอนติดเตียงเป็นเวลานาน หากเลือกที่นอนที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น แผลกดทับ ซึ่งนำไปสู่การติดเชื้อและภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้ การเลือกที่นอนที่เหมาะสมจะช่วยให้ผู้ป่วยนอนหลับสบาย ลดภาระของผู้ดูแล และช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างปลอดภัย
ความสำคัญของการเลือกที่นอนลมป้องกันแผลกดทับ
ที่นอนลมถูกออกแบบมาเพื่อกระจายแรงกดบนร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณปุ่มกระดูก เช่น สะโพก ก้นกบ ไหล่ และส้นเท้า ซึ่งเป็นจุดที่เกิดแผลกดทับได้ง่าย การใช้ที่นอนลมที่ดีจะช่วยกระจายแรงกดเหล่านี้ไปทั่วร่างกาย ลดแรงกดที่เกิดซ้ำจุดเดิม และทำให้เลือดไหลเวียนได้อย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ที่นอนลมยังช่วยเสริมความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย การป้องกันแผลกดทับตั้งแต่แรกจะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ช่วยให้ผู้ป่วยนอนหลับได้เต็มที่ ลดอาการเจ็บปวด ปวดเมื่อย หรือชา และยังช่วยลดโอกาสเกิดการบวมและปัญหาการไหลเวียนเลือดอุดตันได้อีกด้วย

ใครควรใช้ที่นอนลมป้องกันแผลกดทับ
ผู้ที่เหมาะสมกับการใช้ที่นอนลมมีหลายกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มที่มีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหวหรือจำเป็นต้องนอนบนเตียงนาน ๆ
กลุ่มแรกคือผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งไม่สามารถลุกขึ้นหรือพลิกตัวเองได้ ต้องนอนอยู่บนเตียงตลอดเวลา ไม่ว่าจะด้วยโรคประจำตัว การบาดเจ็บ หรืออาการเรื้อรัง หากไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง โอกาสเกิดแผลกดทับจะสูงมาก
กลุ่มที่สองคือผู้ป่วยหลังการผ่าตัด ซึ่งมักมีอาการเจ็บปวดและเคลื่อนไหวลำบาก การนอนบนที่นอนลมจะช่วยลดแรงกด ลดการระคายเคืองต่อแผลผ่าตัด และทำให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
กลุ่มที่สามคือผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเกิดจากโรคระบบประสาท โรคกล้ามเนื้อและข้อ หรือการบาดเจ็บเฉียบพลัน ที่นอนลมช่วยรองรับสรีระและทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายขึ้นในทุกท่าทาง
คุณสมบัติที่ควรพิจารณาก่อนเลือกซื้อ
การเลือกที่นอนลมไม่ใช่เพียงแค่การเลือกตามราคา แต่ควรมองให้ครบทุกด้านเพื่อให้เหมาะสมกับผู้ใช้งานที่สุด
สิ่งแรกที่ควรพิจารณาคือระบบการทำงานของที่นอน หากเป็นผู้ป่วยที่นอนติดเตียงและพลิกตัวไม่ได้ ควรเลือกแบบสลับลมที่มีการปรับแรงดันเป็นรอบ ๆ เพื่อเปลี่ยนจุดรับแรงกดตลอดเวลา แต่ถ้าเป็นผู้ป่วยทั่วไปที่ยังขยับได้บ้าง อาจเลือกแบบลมคงที่ซึ่งราคาย่อมเยาและดูแลง่ายกว่า
อีกปัจจัยที่สำคัญคือความสามารถในการระบายอากาศและลดความอับชื้น ที่นอนลมบางรุ่นมีรูเล็ก ๆ บนผิวผ้าเพื่อปล่อยลมอ่อน ๆ ช่วยให้ผู้ป่วยที่ใช้ผ้าอ้อมหรือมีเหงื่อออกมาก รู้สึกสบาย ไม่เกิดการสะสมความชื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อผิวหนัง
วัสดุที่ใช้ในการผลิตก็มีความสำคัญ ควรเลือกวัสดุที่ทนทาน หนาพอเหมาะ ไม่ขาดง่าย ทำความสะอาดง่าย และไม่ลามไฟ เพื่อให้ใช้งานได้ยาวนานและปลอดภัย
ระบบปั๊มลมก็เป็นหัวใจของที่นอนลม ควรเลือกที่ปรับแรงดันได้เพื่อให้เหมาะกับน้ำหนักและสรีระของผู้ป่วย แต่ที่สำคัญคือควรทำงานเงียบ ไม่รบกวนการนอน เพราะคุณภาพการพักผ่อนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการฟื้นฟูของร่างกาย
ความสามารถในการปรับแรงดันอากาศ
คุณสมบัติข้อนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ที่นอนลมต่างจากที่นอนทั่วไป ปั๊มลมสามารถปรับแรงดันให้นุ่มหรือแข็งได้ตามน้ำหนักและสภาพร่างกายของผู้ป่วย การปรับแรงดันช่วยให้การกระจายแรงกดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดแรงกดเฉพาะจุด ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายขึ้น
หากแรงดันอ่อนเกินไป ที่นอนอาจยุบจนผู้ป่วยสัมผัสกับเตียงด้านล่าง ทำให้เกิดการกดทับ แต่หากแรงดันแข็งเกินไป ก็จะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บหรือกระด้าง การเลือกที่นอนที่ปรับแรงดันได้จึงทำให้สามารถปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลได้ดีที่สุด
ความทนทานของวัสดุ
ที่นอนลมเป็นอุปกรณ์ที่ต้องรับแรงกดและการเคลื่อนไหวตลอดเวลา วัสดุที่ดีจะช่วยยืดอายุการใช้งานและลดโอกาสการรั่วซึม การเลือกวัสดุที่มีความหนาเพียงพอและผ่านการทดสอบมาตรฐาน เช่น ISO หรือ SGS จะทำให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัยต่อผิวหนังผู้ป่วย และสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องซ่อมบ่อย
นอกจากนี้ ควรเลือกวัสดุที่ไม่ก่อให้เกิดการแพ้และสามารถทำความสะอาดได้ง่าย เพราะผู้ป่วยต้องสัมผัสที่นอนโดยตรงทุกวัน
ระบบการหมุนเวียนอากาศ
ที่นอนลมสลับจะมีการทำงานโดยแบ่งช่องลมออกเป็นส่วน ๆ และสลับกันปล่อยลมเข้าออกทุก 10–20 นาที ซึ่งการทำงานในลักษณะนี้ทำให้ไม่มีจุดใดของร่างกายถูกกดทับนานเกินไป ส่งผลให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น และลดความเสี่ยงการเกิดแผลกดทับได้มากกว่าที่นอนแบบลมคงที่
ระบบนี้ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของที่นอนลมป้องกันแผลกดทับสำหรับผู้ป่วยติดเตียงโดยเฉพาะ
ความเงียบของมอเตอร์
เสียงมอเตอร์มีผลโดยตรงต่อการนอนหลับ หากมอเตอร์เสียงดัง จะรบกวนผู้ป่วยและผู้ดูแล ทำให้นอนหลับไม่สนิท ส่งผลเสียต่อการฟื้นฟูของร่างกาย ดังนั้นควรเลือกที่นอนที่มอเตอร์ทำงานเงียบและมีระบบลดแรงสั่นสะเทือน เพื่อให้ผู้ป่วยนอนหลับได้อย่างมีคุณภาพ

วิธีเลือกขนาดที่นอนลมให้เหมาะกับผู้ป่วย
การเลือกขนาดเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะที่นอนที่เล็กหรือใหญ่เกินไปอาจทำให้เกิดช่องว่างและส่งผลต่อความปลอดภัย
ควรเริ่มจากการวัดขนาดเตียงจริงทั้งความกว้างและความยาว เพื่อให้มั่นใจว่าที่นอนลมจะพอดีกับเตียง ไม่เหลือพื้นที่ว่างด้านข้างหรือเลื่อนหลุดง่าย นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาน้ำหนักตัวของผู้ป่วย ที่นอนควรรองรับน้ำหนักได้มากกว่าน้ำหนักจริงเล็กน้อยเพื่อความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งาน
ความหนาของที่นอนก็มีผลต่อความสบาย หากผู้ป่วยน้ำหนักมาก ควรเลือกที่นอนที่มีความหนาเพียงพอเพื่อป้องกันการกดทับลงถึงฐานเตียง
เลือกซื้อที่นอนลมป้องกันแผลกดทับ เลือกฟาซิแคร์
ฟาซิแคร์เข้าใจถึงความสำคัญของการเลือกที่นอนที่เหมาะกับผู้ป่วย เราจึงคัดสรรที่นอนลมคุณภาพสูง หลากหลายรุ่น ทั้งแบบลมคงที่ แบบสลับลม และแบบ Low Air Loss ให้ลูกค้าสามารถทดลองใช้จริงก่อนตัดสินใจซื้อ พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้รุ่นที่เหมาะกับสภาพผู้ป่วยที่สุด
เรายังมีบริการหลังการขายที่ครบถ้วน มีอะไหล่และทีมงานคอยดูแล รวมถึงการจัดส่งและติดตั้งอย่างมืออาชีพ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้ป่วยจะได้รับความสบายและความปลอดภัยสูงสุดในทุกคืนที่พักผ่อน
ช่องทางการติดต่อ Fasicare
Website:
www.fasicare.com
Telephone:
0-2019-1388 (ต่อ 11, 12, 13) | 086-300-2582, 096-935-7475
Line Official:
@fasicare
Facebook:
facebook.com/fasicare
E-mail:
fasicareshop@gmail.com
Instagram:
instagram.com/fasicare
Youtube:
youtube.com/fasicareshop


