9 อุปกรณ์การแพทย์ที่ควรมีในยุค โควิด 19
ปลอดภัยช่วงโควิด 19 ด้วยอุปกรณ์การแพทย์ประจำบ้าน
ในช่วงภาวะวิกฤตที่ทั่วโลกต่างเผชิญปัญหาโรคโควิด 19 ระบาดไปทั่วโลก ส่งผลให้เราต้องใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวังในความสะอาด ด้วยการป้องกันตนเองทุกวิธี ทั้งอยู่ในบ้านและนอกบ้าน โดยเฉพาะเวลาเดินทางออกไปข้างนอกต้องมีอุปกรณ์เตรียมพร้อมอยู่เสมอ เรามาดูกันเลยว่าต้องมีอะไรกันบ้าง
แว่นตาป้องกันโควิด
แว่นตาแนบเข้ากับผิวหน้าของคุณได้เป็นอย่างดี กรอบ PVC ยืดหยุ่น เพื่อให้เข้ากับใบหน้าทุกรูปทรงด้วยแรงกดที่เท่ากัน โดยกรอบแว่นจะปิดตาและบริเวณโดยรอบ พร้อมเลนส์พลาสติกใสมากับระบบป้องกันการเกิดรอยขีดข่วน สายรัดสามารถปรับได้เพื่อทำให้เกิดการแน่นไม่หลวมระหว่างทำกิจกรรมอื่น ๆ มีจุดระบายอากาศทางอ้อมเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดฝ้า
Face Shield
ทำจากพลาสติกใสและให้ความรู้สึกที่ดีทั้งผู้สวมใส่และผู้ป่วย อีกทั้งสามารถปรับเพื่อให้แนบสนิทไปกับศีรษะและหน้าผาก โดยสามารถกันฝ้าได้ เพราะปกปิดใบหน้าด้านข้างจากการส่องของแดดเมื่อออกไปข้างนอกได้ โดย Face Shield ส่วนใหญ่ทำจากวัสดุที่ทนทานซึ่งสามารถทำความสะอาดและฆ่าเชื้อได้
แอลกอฮอล์ล้างมือ
ส่วนใหญ่ในท้องตลาดจะมีจำหน่ายขนาดขวดละ 100 มล. และ 500 มล. และควรเลือกแอลกอฮอล์ล้างมือที่มีเอทานอลอย่างน้อย 80% หรือไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ 75% (v/v)
ถุงมือทำความสะอาด
ควรเลือกถุงมือที่มีความยาวถึงข้อมือและทนต่องานหนัก ไร้แป้ง ไร้ตะเข็บ และกันน้ำได้ ผลิตจากยางสังเคราะห์ไนไตรล์ (ไม่มีน้ำยาง) ซับในด้วยผ้าถัก ช่วยให้เลื่อนเข้าและถอดออกได้สะดวก ทำความสะอาดได้ด้วยน้ำและสารฆ่าเชื้อ (ต้านทานทั้งสารละลายเอทานอล 70% และสารละลายคลอรีน 0.05% หรือ 500 ppm)
หน้ากากอนามัย
ปกติแล้วโควิด-19 จะแพร่กระจายจากละอองฝอยเมื่อเราพูด จาม หรือ ไอ ดังนั้นทางรัฐบาลถึงให้รักษาระยะห่างในพื้นที่ที่เชื้อโควิด-19 แพร่ระบาด และสวมหน้ากากเมื่อต้องเดินทางไปในพื้นที่แออัด และพกเจลแอลกอฮอล์ เพื่อช่วยป้องกันตนเองจากโรคโควิด-19 ทุกคนจึงต้องรักษาระยะห่างอย่างเคร่งครัด
ในปัจจุบันมีหน้ากากอนามัย 2 ประเภทให้เลือกใช้ :
หน้ากากอนามัยทั่วไป หากคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่โควิด-19 แพร่ระบาด แต่คุณยังไม่ติดเชื้อโควิด แต่อย่างไรก็ตามควรสวมหน้ากากทุกครั้งที่ออกไปนอกบ้าน หน้ากากทางการแพทย์ หากคุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด-19 ก็ควรสวมหน้ากากทางการแพทย์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19
กระเป๋าใส่เอกสารที่ใช้ในการติดต่อโรงพยาบาล
เตรียมกระเป๋าใบเล็ก ๆ สำหรับใส่เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อโรงพยาบาล ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน บัตรข้าราชการ บัตรเครดิต บัตรโรงพยาบาล บัตรประกันสังคม เป็นต้น พร้อมกับใส่ยาโรคประจำตัวไว้ในกระเป๋าด้วย เมื่อพบว่าตนเองติดเชื้อโควิด-19 ก็สามารถเช็กสิทธิ์การรักษา หรือประกันสุขภาพที่ทำไว้ เพื่อใช้ชำระค่ารักษาพยาบาลในระหว่างรักษาตัว การเตรียมเอกสารให้พร้อมไว้เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินต้องเข้ารับการรักษาจะได้รวดเร็ว ปลอดภัย
เครื่องวัดอุณหภูมิร่างกาย
ในปัจจุบันที่ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ก็ต้องมีอุปกรณ์การแพทย์เครื่องวัดอุณหภูมิร่างกายคู่บ้านติดประจำไว้ที่บ้าน เผื่อมีไข้ จะได้หยิบปรอทวัดไข้ได้ทันเวลา ถ้าเกิดอาการไม่สบาย มีไข้ ก็หยิบมาใช้เพื่อติดตามอาการและเฝ้าระวังว่าตนเองและคนในบ้านเข้าข่ายมีภาวะความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ไหม หากอุณหภูมิมากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ถือว่ามีไข้ เมื่อทราบอุณหภูมิของตนเองก็จดบันทึกไว้เพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูล
โดยในท้องตลาดมีปรอทให้เลือกใช้อยู่ 2 ชนิด คือ
- ปรอทวัดไข้แบบดิจิทัล
ข้อดี : สะดวกและง่ายต่อการใช้งานเพียงแค่กดปุ่ม แล้วสอดเข้ากับรักแร้แล้วรอผลสักพัก ตัวเลขก็แสดงบนหน้าจอของปรอทอย่างชัดเจน ส่วนใหญ่ปรอทวัดไข้ดิจิทัลผลิตมาจากวัสดุที่มีความยืดหยุ่น ทนทาน และไม่มีสารปรอท
ข้อเสีย : ราคาแพงกว่าปรอทวัดไข้แบบแก้ว - ปรอทวัดไข้แบบแก้ว
ข้อดี : ราคาถูก
ข้อเสีย : ก่อนใช้งานต้องมีการสะบัดปรอทก่อนวัดไข้ เพื่อให้อุณหภูมิในปรอทวัดไข้อยู่ต่ำกว่า 36 องศาเซลเซียส แต่ข้อควรระวังปรอททำจากแก้วถ้าใช้ไม่ระวัง จะทำให้แตกหักได้ง่ายและมีสารปรอทที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ได้ อีกทั้งยังอ่านค่าได้ยาก
เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว
ความสำคัญของเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว คือ เป็นตัวช่วยบอกเราว่าปอดทำงานผิดปกติหรือไม่
เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วมีหลักการทำงาน โดยการปล่อยแสงเพื่อเช็คปริมาณออกซีฮีโมโกลบินที่ปลายนิ้ว แล้วแสดงผลออกมาเป็นค่าตัวเลขได้อัตโนมัติ โดยค่าในแต่ละระดับจะบ่งบอกดังนี้
น้อยกว่า 90% = มีความผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ ระหว่าง 90% – 94% = ควรเฝ้าสังเกตอาการผิดปกติ ถ้าผิดปกติความปรึกษาแพทย์ มากกว่า 95% = ปกติ
นอกจากนี้ยังมีสาเหตุที่ทำให้ตัวเลขในเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วคลาดเคลื่อนได้ เช่น สีของเล็บมืด นิ้วเย็นเกินไป จึงควรวัดสัก 2-3 ครั้ง ว่าตัวเลขโอเค ผลขึ้นมาเหมือนกัน
ในบางรายเกิดภาวะค่าออกซิเจนในเลือดต่ำ ซึ่งเกิดจากแรงดันของออกซิเจนในเลือดต่ำกว่าปกติ ซึ่งส่วนใหญ่จะพบปัญหาโรคประจำอื่นร่วมอยู่แล้ว เช่น โรคปอด โรคถุงลมโป่งพอง โรคไต โรคหัวใจ น้ำท่วมปอด
อาการที่เกิดขึ้นจากภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำ คือ จะรู้สึกหายใจเร็วขึ้น เพราะหัวใจเต้นเร็ว หอบ และวิธีการรักษา ทำได้โดยไปพบแพทย์ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยว่าควรจะรักษาด้วยวิธีไหน
โดยราคาของเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วจะอยู่ที่ 300 – 3,000 บาท โดยเพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ ควรซื้อที่ร้านจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์และร้านขายยา
ยาพาราเซตามอล 500 มิลลิกรัม
ควรซื้อยาพาราเซตามอลขนาด 500 มิลลิกรัม ไว้ประจำบ้าน เนื่องจากเป็นยาลดไข้ เมื่อมีอาการไข้ ควรรับประทานยาขนาด 500 – 750 มิลลิกรัม หรือ 1 เม็ด ต่อน้ำหนักตัว 50 กิโลกรัม โดยควรรับประทานยาพาราเซตามอลทุก ๆ 4-6 ชั่วโมง ผู้ใหญ่ไม่ควรรับประทานเกิน 10 วันติดต่อกัน และเด็กไม่ควรรับประทานติดต่อกันเกิน 5 วัน
น้ำยาฆ่าเชื้อโรค
กรมอนามัยได้แนะนำน้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่มีแอลกอฮอล์ 70% สำหรับเช็คฆ่าเชื้อโรคบนของใช้ต่าง ๆ สำหรับน้ำยาฆ่าเชื้อที่ใช้กับการกำจัดขยะ ควรใช้น้ำยาฟอกขาวที่มีส่วนผสมของโซเดียมไฮเปอร์คลอไรท์ 500-1000 ppm
ชุดตรวจโควิดด้วยตนเอง
เมื่อมีอาการต้องสงสัยว่าจะติดโควิด หรือเคยสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ ก็สามารถใช้ชุดตรวจโควิดตรวจสอบการติดเชื้อได้ หากอาการไม่รุนแรงส่วนใหญ่จะตรวจไม่พบเชื้อในครั้งแรก ควรตรวจซ้ำทุก 3 วัน และจดบันทึกไว้วันที่และผลที่ได้
หากใครยังมอบหาอุปกรณ์การแพทย์ เพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด – 19 อยู่ บริษัทฟาซิแคร์ FASICARE จำหน่ายอุปกรณ์การแพทย์ เตียงผู้ป่วย ที่นอนลมป้องกันแผลกดทับ รถเข็นไฟฟ้า เครื่องวัดอุณหภูมิร่างกาย เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว ที่คุณสามารถช้อปปิ้งได้อย่างอิสระ ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ฟาซิแคร์ จำหน่ายรถเข็นผู้ป่วย รถเข็นไฟฟ้า และอุปกรณ์การแพทย์
โทร : 0-2019-1388 (ต่อ 11 , 12 , 13), 086-3002582, 096-9357475
Line ID : @fasicare
Facebook : https://www.facebook.com/fasicare
Email : [email protected]
Instagram : https://www.instagram.com/fasicare
Youtube : https://www.youtube.com/fasicareshop