เพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุด้วยรถเข็นไฟฟ้า
การเลือกรถเข็นผู้สูงอายุ หรือ รถวีลแชร์ไฟฟ้าให้เหมาะกับผู้สูงอายุ
หากบ้านใครมีคนชรา คนป่วย หรือคนพิการที่ต้องดูแล ใส่ใจอาหารการกิน และการใช้ชีวิตเป็นพิเศษ เวลาเคลื่อนที่หรือเดินทางไปไหนก็ลำบากถ้าไม่มีใครช่วยเข็น อาจจะส่งผลให้คนชรา คนป่วย คนพิการที่บ้านรู้สึกลำบากและรำคาญใจ ตัดข้อกังวลเรื่องนี้ไปได้เลย หากมีรถเข็นไฟฟ้า รถเข็นผู้สูงอายุคุณภาพดี ปลอดภัย และใช้งานง่าย ให้ผู้ป่วย คนชรา คนพิการไว้ใช้งานที่บ้านหรือสถานที่ใกล้เคียงได้
รถเข็นไฟฟ้าส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบให้มาใช้กับผู้ที่ร่างกายไม่แข็งแรงและมีแรงไม่มาก ให้สะดวกแก่การบังคับให้รถเข็นเคลื่อนที่เป็นได้ไม่ลำบากนัก หากคุณกำลังวางแผนซื้อรถเข็นไฟฟ้าให้กับคนที่รักอยู่ ควรคำนึงถึงความแข็งแรง ทนทาน ปลอดภัย และการเคลื่อนที่ของล้อที่ลื่นไหลเมื่อคนชรา คนป่วย หรือคนพิการใช้เพื่อพาเคลื่อนที่ไปที่บ้านหรือสถานที่อื่น อีกทั้งควรจะเลือกแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้หลายชั่วโมง เพื่อให้การใช้งานรถเข็นไฟฟ้าไม่สะดุด
วิธีเลือกซื้อรถเข็นไฟฟ้า หรือข้อคิดที่ควรพิจารณากันเลยค่ะ
- น้ำหนักตัวของผู้ใช้รถเข็นไฟฟ้า
ปกติรถเข็นไฟฟ้าจะมีสามารถรองรับน้ำหนักได้ทั้งหมด 100 กิโลกรัม อย่างไรก็ตามขอแนะนำให้ใช้รถเข็นรองรับน้ำหนักของผู้ป่วย คนชรา และคนพิการสูงสุดเพียง 91 กิโลกรัม เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหารถเข็นไฟฟ้ารองรับน้ำหนักมากเกินไปจนเป็นสาเหตุให้ชำรุด ใช้งานไม่สะดวก หรือเกิดอุบัติเหตุได้ในพื้นที่ที่ขรุขระหรือพื้นที่ที่มีความสูง หากต้องใช้รถเข็นไฟฟ้าที่รองรับน้ำหนักมากขึ้นกว่าปกติ ก็สามารถทำการวัดได้ เพื่อสั่งทำเป็นกรณีพิเศษได้ โดยอาจต้องจ่ายเงินเพิ่มกว่าราคาปกติ - กำลังเครื่องยนต์
รถเข็นไฟฟ้าราคาไม่แพงมาพร้อมกำลังแครื่องยนต์เต็มที่ หากคุณต้องการใช้งานรถเข็นไฟฟ้าบนพื้นที่ที่ขรุขระ หรือพื้นที่ที่เป็นภูเขา ค่อนข้างจะเหมาะสมกับกำลังเครื่องยนต์สูง แต่ถ้าคุณนำรถเข็นไฟฟ้าไปใช้ในพื้นผิวที่ราบเรียบ ก็ควรจะควบคุมกำลังเครื่องยนต์และชะลอความเร็วอัตโนมัติในระหว่างการเลี้ยว - ความต้องการส่วนตัว
หากผู้ใช้รถเข็นไฟฟ้าต้องเดินทางด้วยรถยนต์บ่อย ๆ ขอแนะนำรถเข็นไฟฟ้าพับได้ นอกจากนี้ยังมีรถเข็นไฟฟ้าแบบถอดได้ ซึ่งสามารถแยกออกได้ 3 ชิ้น ไว้เป็นทางเลือกของลูกค้าอีกด้วย - ประเภทของล้อ
ล้อรถเข็นไฟฟ้าแบ่งออกเป็นสองประเภท คือ Pneumatic และ Solid โดยล้อ Pneumatic เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้ในเส้นทางหรือพื้นถนนที่ไม่เรียบและสามารถกันกระแทกได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตามล้อ Pneumatic สามารถถูกเจาะได้ ดังนั้นควรทำการตรวจสอบและบำรุงรักษาล้อ Pneumatic อย่างสม่ำเสมอ ส่วนล้อ Solid นั้นจะหนักและแข็งแรงกว่าแบบ Pneumatic ไม่สามารถเจาะทะลุได้ จึงไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษาบ่อย ๆ - ประเภทของการดึง (Traction Type)
ในกรณีที่มีรถเข็นไฟฟ้าขนาด 6 ล้อ จะมีกำลังควบคุมจากล้อกลางมากที่สุด จึงทำให้การดึงของรถเข็นไฟฟ้าเป็นศูนย์กลางได้ และสามารถบังคับได้ง่าย เนื่องจากการยึดเกาะที่ไม่ธรรมดา แต่ไม่ควรใช้บนพื้นผิวที่ขรุขระมากจนเกินไป นอกจากนี้ยังมีรถเข็นไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหน้าสำหรับคนพิการที่กำลังเป็นที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากเป็นรถเข็นไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนง่ายที่สุดภายในอาคาร แต่สามารถเอาชนะสิ่งกีดขวางกลางแจ้งได้ - ประเภทคำสั่ง (Command Type)
จอยสติ๊กเป็นตัวควบคุมทั่วไปที่ถูกใช้ในระบบรถเข็นไฟฟ้ามากที่สุด และสามารถปรับเปลี่ยนให้ตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่ใช้แรงน้อยลงได้ หากมือหรือแขนของผู้ใช้มีการเคลื่อนไหวที่จำกัด นอกจากนี้ยังมีการควบคุมพิเศษที่ทำขึ้นเฉพาะกรณี เช่น เมื่อจำเป็นต้องควบคุมเก้าอี้ด้วยศีรษะ คาง หรือปาก - รถเข็นไฟฟ้าสามารถเคลื่อนที่ไปได้ไกลได้แค่ไหน
โดยปกติแล้วแบตเตอรี่รถเข็นไฟฟ้าเมื่อถูกชาร์จเต็มแล้ว จะมีอายุการใช้งานอย่างน้อย 8 ชั่วโมง โดยมีระยะทางการใช้งานอย่างน้อย 19 กิโลเมตร อย่างไรก็ตามขึ้ยอยู่กับปัจจัยอย่างอื่นอีกหลายประการ รวมถึงรุ่นของรถเข็นไฟฟ้า จำนวน ขนาด และคุณภาพของแบตเตอรี่ รวมถึงน้ำหนักตัวของผู้ใช้รถเข็นไฟฟ้าอีกด้วย - ราคาและคุณภาพของรถเข็นวีลแชร์แบบมอเตอร์ที่ใช้งาน
โดยปกติรถเข็นไฟฟ้าที่มีคุณภาพ คุณสมบัติ ตามข้อกำหนดเฉพาะ จะมีราคาสูงถึง 12,000 ดอลลาร์ ส่วนใหญ่รถเข็นไฟฟ้าคุณภาพทั่วไปจะมีราคาประมาณ 2,000 – 3,000 ดอลลาร์ แต่รถเข็นวีลแชร์ไฟฟ้าบางรุ่นก็มีราคาประมาณ 1,000 ดอลลาร์ - ขนาดของรถเข็นไฟฟ้าที่ใช้
ขึ้นอยู่กับความสรีระ น้ำหนัก และความต้องการของผู้ใช้รถเข็นไฟฟ้า แต่ควรพิจารณาเลือกจากความกว้างของเบาะนั่งและน้ำหนักของผู้ใช้รถเข็น โดยรถเข็นไฟฟ้าส่วนใหญ่จะมีที่นั่งกว้าง 16 – 20 นิ้ว
สอบถามสินค้า Fasicare
- ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับรถเข็นไฟฟ้า
เมื่อคุณกำลังมองหารถเข็นไฟฟ้า คุณควรจะมองหาคำอธิบายคุณสมบัติ วิธีการใช้ และคำศัพท์พื้นฐานที่อธิบายเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์รถเข็นไฟฟ้า เพื่อทำให้เลือกรถเข็นไฟฟ้าให้ตรงกับความต้องการมากที่สุด - การขับเคลื่อนล้อหน้า ล้อกลาง และล้อหลัง
รถเข็นไฟฟ้า 1 คัน อาจจะมีล้อทั้งหมด 4 หรือ 6 ล้อก็ได้ แต่จะมีเพียงสองล้อเท่านั้นที่ได้รับพลังงานจากมอเตอร์ล้อโดยตรง ที่จะส่งผลทำให้รถเข็นไฟฟ้ามั่นคงและทรงตัวได้ โดยระบบขับเคลื่อนล้อกลางมีแนวโน้มที่ทำงานได้ดีที่สุดสำหรับการเลี้ยวไปรอบ ๆ ในพื้นที่แคบ ในขณะที่รถเข็นที่มีล้อเข็นแบบขับเคลื่อนล้อหลังและล้อหน้า มักจะให้การเคลื่อนที่ที่นุ่มนวล และเหมาะกับการเดินทางบนพื้นถนนกลางแจ้ง แต่ควรปรึกษากับนักกายภาพบำบัดเพื่อพิจารณาว่าระบบขับเคลื่อนล้อแบบใดที่เหมาะกับการใช้งานประจำวันของผู้ใช้รถเข็นมากที่สุด - รัศมีวงเลี้ยว (Turning Radius)
รัศมีวงเลี้ยวเป็นการกลับรถเข็นไฟฟ้าที่มีขนาดเล็กที่สุดที่สามารถทำได้ ยิ่งรัศมีวงเลี้ยวแคบลง รถเข็นไฟฟ้าก็จะยิ่งเหมาะสำหรับใช้ในร่มหรือพื้นที่ขนาดเล็ก ปกติรัศมีวงเลี้ยวส่วนใหญ่มีขนาดระหว่าง 20 นิ้ว ถึงประมาณ 35 นิ้ว รถเข็นไฟฟ้าขนาดใหญ่จะมีรัศมีวงเลี้ยวกว้าง นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่จะส่งผลต่อขนาดของรัศมีวงเลี้ยวเช่น มุมของที่พักเท้าและระบบขับเคลื่อนของล้อ - ระยะการเดินทางของรถเข็นไฟฟ้า
ปกติระยะกิโลเมตรที่รถเข็นไฟฟ้าสามารถเดินทางได้ ก่อนที่จะชาร์จแบตเตอรี่ โดยมี Range แตกต่างกันตั้งแต่ 6.5 หรือ 8 กิโลเมตร แต่อย่างไรก็ตามรถเข็นไฟฟ้าบางตัวก็สามารถเดินทางออกไปถึง 32 กิโลเมตร ช่วงอาจสั้นกว่าที่ระบุ หากผู้ใช้รถเข็นไฟฟ้ามีน้ำหนักมากกว่าปกติ หรือเส้นทางเดินทางภูมิประเทศไม่ราบรื่น หรือแบตเตอรี่เริ่มเก่า ดังนั้นการหารถเข็นไฟฟ้าที่มีระยะการเดินทางสูง จึงเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับผู้ใช้ที่จะนำรถเข็นไฟฟ้าออกนอกบ้าน เพื่อไปสถานที่อื่น - ขีดจำกัดการรับประกัน
รถเข็นไฟฟ้ามักจะมีการรับประกันแบบจำกัด และผู้ผลิตไม่ครอบคลุมถึงค่าสึกหรอในแต่ละวัน การรับประกันส่วนใหญ่จะครอบคลุมส่วนประกอบโครงสร้าง เช่น โครงโลหะของรถเข็นไฟฟ้าเป็นเวลา 5 หรือ 10 ปี และมักจะครอบคลุมส่วนอื่น ๆ ในระยะเวลาที่สั้นกว่าที่ระบุไว้ในข้อตกลงการรับประกัน จึงควรศึกษาและสอบถามการรับประกันรถเข็นไฟฟ้ากับผู้ขายก่อนสั่งซื้อ - ปวดร่างกายน้อยลง
จากการเปลี่ยนจากรถเข็นธรรมดาเป็นรถเข็นไฟฟ้าสามารถช่วยป้องกันอาการปวดเรื้อรัง การบาดเจ็บ และปัญหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพได้ *งานวิจัยแสดงให้เห็นว่า การใช้รถเข็น Manual เป็นเวลานานอาจนำไปสู่ภาวะสุขภาพที่ร้ายแรง เช่น โรคข้อไหล่เสื่อม ความไม่สมดุลของกล้ามเนื้อ และโรคกระดูกสันหลังคด เป็นต้น
เมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง อาการเหล่านี้จะรุนแรงขึ้น การเปลี่ยนไปใช้รถเข็นไฟฟ้า สามารถช่วยให้ผู้ใช้งานควบคุมและป้องกันสภาวะอาการโรคเหล่านี้ได้ การออกแบบได้รวมเอาคุณสมบัติเฉพาะตัวที่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ และปลอดภัยมากขึ้นเมื่อใช้งานรถเข็นไฟฟ้า
การเลือกซื้อรถเข็นไฟฟ้าให้เหมาะกับน้ำหนักตัวของผู้ใช้และลักษณะของการใช้งาน โดยคำนึงถึงคุณภาพ ราคาที่เหมาะสม จึงเป็นจำเป็นและสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนการเลือกซื้อรถเข็นไฟฟ้า
สำหรับลูกค้าท่านไหนที่ต้องการคำปรึกษาและคำแนะนำเพิ่มเติมในการเลือกซื้อเตียงผู้ป่วย เตียงคนไข้ไฟฟ้า รถวีลแชร์ รถเข็นไฟฟ้า ทาง Fasicare ก็มีผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้บริการลูกค้าทุกท่านด้วยความใส่ใจ ตั้งแต่การให้คำปรึกษาเพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อเตียงผู้ป่วย และรถวีลแชร์ได้ตรงตามความต้องการ และความเหมาะสมในการใช้งานมากที่สุด ตลอดจนการดูแลและให้บริการหลังการขาย รับรองได้ว่าทุกท่านจะได้รับแต่สิ่งที่ดี และคุ้มค่าที่สุดแน่นอน
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Telephone: 02-0191388
Line: @fasicare
E-Mail: [email protected]