ทำไมตรวจเบาหวานแต่ละครั้งค่าไม่เท่ากัน
ปัจจัยที่ทำให้การตรวจเบาหวานค่าไม่เท่ากัน
ในยุคปัจจุบันการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะโลกเราเต็มไปด้วยเชื้อโรคใหม่ เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งเราทานอาหารที่มีประโยชน์ ทานวิตามินเสริม หมั่นออกกำลังกาย พักผ่อนให้เต็มที่ และใส่หน้ากากอนามัยก็จะช่วยให้ลดการเกิดโรคร้ายแรงได้ วันนี้จะขอนำเสนอเกี่ยวกับโรคเบาหวาน หลาย ๆ คนที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าเป็นโรคเบาหวาน อาจจะรู้สึกสงสัยว่าทำไมตรวจเบาหวานแต่ละครั้งค่าไม่ตรงกันเลย เรามีคำตอบมาให้
ปัจจัยใดที่ส่งผลกระทบต่อการใช้เครื่องตรวจเบาหวาน ที่ทำให้ผลการตรวจเบาหวานได้ค่าไม่เท่ากันในการตรวจแต่ละครั้ง
- เจาะเลือดแต่ละครั้ง องค์ประกอบของเลือดออกมาไม่เท่ากัน
ปกติในการเจาะเลือด เพื่อวัดค่าระดับน้ำตาลในแต่ละครั้ง จะได้ค่าที่แตกต่างกันในแต่ละครั้ง เนื่องจากเลือดหนึ่งหยดของเรา จะประกอบด้วย เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด และน้ำเลือด ซึ่งทำให้ในการเจาะเลือดแต่ละครั้ง จะได้องค์ประกอบของเลือดในแต่ละครั้งออกมาในปริมาณไม่เท่ากัน - ต้องคำนึงถึงอุณหภูมิในขณะตรวจวัดน้ำตาลในเลือดด้วยเครื่องตรวจเบาหวาน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าบริเวณที่เราตรวจวัดน้ำตาลในเลือดมีอุณหภูมิสูงหรือต่ำมาก ๆ จะส่งผลให้เกิดความคลาดเคลื่อนได้ - เกิดจากความเข้มข้นของเลือด
พบว่าจากงานวิจัยของผู้เชี่ยวชาญ การที่เลือดของผู้ป่วยมีความเข้มข้นสูง ส่งผลให้ได้ค่าน้ำตาลในเลือดสูงกว่าค่าจริง ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจากการดื่มน้ำน้อย - เกิดจากการใช้งานผิดวิธี
เนื่องจากการใส่โค้ดทดสอบผิด และการป้ายเลือดบนแผ่นทดสอบ เป็นต้น - การใช้ยาบางชนิด
การรับประทานยาบางชนิด เช่น พาราเซตามอน ยารักษาโรคพาร์กินสัน ก็มีผลต่อค่าระดับน้ำตาลเช่นกัน แต่มีผลน้อยมากสอบถามสินค้า Fasicare
- การบีบเค้นเลือด
จะทำให้ได้น้ำเลือดหรือน้ำเหลือง ซึ่งประกอบด้วยน้ำตาลกลูโคสออกมามากกว่าปกติ ส่งผลให้ผลลัพธ์คลาดเคลื่อนได้ - การใช้มีดหมอและแผ่นทดสอบในทางที่ผิด
เพื่อทำให้คนไข้เจ็บปวดน้อยที่สุดและได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำที่สุด บุคลากรทางการแพทย์จะต้องมีอุปกรณ์เครื่องตรวจเบาหวานในเลือดที่เหมาะสม เช่น มีดหมอ เครื่องวัดน้ำตาลที่แม่นยำ และแผ่นทดสอบที่ผู้ผลิตแนะนำ การปล่อยปละละเลยอาจไม่ให้ผลลัพธ์เท่าที่คุณคาดหวัง นอกจากนี้การใช้แผ่นทดสอบที่หมดอายุหรือเก็บไว้ไม่ดี อาจทำให้ค่าที่ออกมาไม่ถูกต้องแนวทางการแก้ไขเพื่อการควบคุมโรคเบาหวานได้ดีขึ้น คือ มีดหมอที่ใช้ควรจะคมอยู่เสมอ และควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าแถบทดสอบถูกจัดเก็บไว้ในภาชนะที่ปิดสนิท และหมั่นตรวจสอบวันหมดอายุของแถบทดสอบก่อนใช้
- การทดสอบเบาหวานหลังจากรับประทานอาหารเร็วเกินไป
การรู้ว่าเมื่อใดควรทดสอบเบาหวาน และเหตุใดข้อมูลดังกล่าวจะมีประโยชน์สามารถช่วยให้คุณควบคุมโรคเบาหวานได้ดีขึ้น บ่อยครั้งผู้คนจะทดสอบระดับน้ำตาลในเลือดหลังจากรับประทานอาหารครึ่งชั่วโมงหรือหนึ่งชั่วโมงแต่อย่างไรก็ตามการทดสอบเบาหวานเร็วเกินไปหลังจากที่คุณทานอาหารจะทำให้คุณได้ผลลัพธ์ที่สูงเกินความเป็นจริง ทางออกสำหรับช่วงเวลาการเทสเบาหวานที่ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เที่ยงตรง คือ การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหาร และควรทดสอบทุกครั้งก่อนรับประทานอาหาร หรือรอสองชั่วโมงหลังรับประทานอาหารเพื่ออ่านให้ได้ค่าที่ถูกต้องมากที่สุด
- ทดสอบเบาหวานอย่างไม่ใส่ใจ
หากคุณกำลังทดสอบเบาหวานตามกำหนดเวลาโดยไม่รู้จริง ๆ ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร อาจจะต้องเสียแผ่นทดสอบไปเปล่า ๆ คุณอาจได้รับคำแนะนำให้ทดสอบ 2 ครั้ง ครั้งแรกช่วงก่อนหรือหลังรับประทานอาหารในตอนเช้า และครั้งที่สองก่อนนอน ช่วงเวลาที่ดีในการทดสอบ ผลลัพธ์ที่ออกมาก่อนเข้านอนและในตอนเช้าจะมีความเกี่ยวข้องกันแนวทางแก้ไขเพื่อการควบคุมโรคเบาหวานที่ดีขึ้น ตรวจสอบผลการทดสอบเบาหวานอีกครั้งกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับผลลัพธ์ของคุณ ให้คิดว่าการทดสอบเป็นวิธีหนึ่งที่จะค้นพบว่าร่างกายของคุณจะตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของยา การรับประทานอาหาร กิจกรรม และการนอนหลับ มากกว่าแค่กิจวัตรประจำวันที่ต้องปฏิบัติตาม
- การปนเปื้อนของสิ่งสกปรกบนนิ้วเป็นต้นเหตุของความแปรปรวนในการอ่านค่าน้ำตาลในเลือด
แม้จะมีเศษอาหารติดมือเพียงเล็กน้อย ก็อาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดได้ ตัวอย่างเช่น เพียงแค่เอามือแตะกล้วยหรือผลไม้ก็อาจทำให้ตัวเลขสูงลิ่วได้ เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งนี้จะไม่ส่งผลต่อผลลัพธ์ ให้ล้างมือทั้งสองข้างให้สะอาดก่อนทำการทดสอบ และอย่าใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ การวิจัยพบว่าแอลกอฮอล์ไม่สามารถทำความสะอาดได้เช่นเดียวกับการล้างมือด้วยสบู่และน้ำประปา
เมื่อทราบเหตุผลว่าทำไมตรวจเบาหวานแต่ละครั้งค่าถึงไม่เท่ากันแล้ว ใครที่ต้องตรวจเบาหวาน แต่ยังไม่มีเครื่องตรวจเบาหวาน ก็ต้องเริ่มมองหากันได้แล้ว
Fasicare มีเครื่องตรวจเบาหวาน เครื่องตรวจน้ำตาลในเลือด จำหน่ายในราคาถูก ได้รับมาตรฐานระดับสากล สะดวก พกพาได้ง่าย พร้อมรับประกันยาวนานเป็นระยะเวลา 5 ปี จุดเด่นคือ เข็มปรับความลึกได้ ไม่รู้สึกเจ็บ เจาะเลือดน้อย
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://fasicare.com
Telephone: 0-2019-1388 (ต่อ 11 , 12 , 13), 086-3002582, 096-9357475
Line ID : @fasicare
Facebook: https://www.facebook.com/fasicare
E-mail: [email protected]
Instagram : https://www.instagram.com/fasicare
Youtube : https://www.youtube.com/fasicareshop