เครื่องผลิตออกซิเจน

ความแตกต่างระหว่างเครื่องผลิตออกซิเจนและถังออกซิเจน

ความแตกต่างระหว่างเครื่องผลิตออกซิเจนและถังออกซิเจน

ทำความรู้จักเครื่องผลิตออกซิเจนและถังออกซิเจน

เครื่องผลิตออกซิเจนและถังออกซิเจนมีจุดประสงค์เดียวกันคือ ใช้สำหรับบำบัดผู้ป่วยจากโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น ปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคปอด หรือผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลว แม้ว่าทั้งสองอย่างนี้จะให้ออกซิเจนเหมือนๆ กัน แต่การทำงานนั้นแตกต่างกัน ซึ่งการทำงานที่แตกต่างกันนี่แหละที่เป็นตัวกำหนดว่า ใครบ้างที่เหมาะกับการใช้เครื่องผลิตออกซิเจน และใครหรือที่ใดบ้างที่ควรใช้ถังออกซิเจน
 

เครื่องผลิตออกซิเจน (Oxygen Concentrator )

คือ เครื่องมือทางการแพทย์ ที่ออกแบบมาเพื่อผลิตออกซิเจนในความเข้มข้นสูง ใช้สำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) โดยผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ แพทย์มักจะแนะนำให้ใช้เครื่องผลิตออกซิเจนควบคู่กับเครื่องช่วยหายใจ
 
หลักการทำงานของเครื่องผลิตออกซิเจน จะทำงานโดยอาศัยหลักการ Pressure Swing Adsorption หรือ PSA โดยจะใช้ ซีโอไลท์เพื่อทำการดูดซับไนโตรเจนออกจากอากาศที่มีความดันสูง ตัวไนโตรเจนเองจะจับตัวยึดติดกับผิวชองซีโอไลท์ ด้วยความที่ซีโอไลท์มีพื้นผิวที่ใหญ่และยังสามารถดูดซับก๊าซไว้ได้ค่อนข้างเยอะ เมื่อความดันต่ำไนโตรเจนก็จะถูกปล่อยออกมาพร้อมกับออกซิเจนบริสุทธิ์ 96% นั่นเอง 
 

เครื่องผลิตออกซิเจนมีทั้งหมด 2 ประเภท คือ 

  1. Continuous Flow Portable Oxygen Concentrators เครื่องผลิตออกซิเจนชนิดนี้ สามารถจัดการกับปริมาณออกซิเจนให้เหมาะกับผู้ป่วยได้ดีกว่าแบบ Pulse Dose สามารถผลิตออกซิเจนได้ 2-5 ลิตร/นาที ใช้งานได้สะดวกสบายและตอบโจทย์ในหลายๆ ด้าน
  2. Pulse Dose Portable Concentrators เครื่องผลิตออกซิเจนแบบ Pulse Dose จะผลิตออกซิเจนออกมาเป็นระยะๆ ตามการหายใจของผู้ป่วยสามารถผลิตออกซิเจนได้ 450-1,250 มิลลิลิตร/นาที เหมาะกับผู้ป่วยที่ไม่ต้องการออกซิเจนปริมาณมากนัก ราวๆ 2 ลืตร/นาที

ข้อดีของเครื่องผลิตออกซิเจน

  • ใช้งานง่าย – การใช้งานเครื่องผลิตออกซิเจนไม่ได้มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก เพียงแค่เสียบปลั๊ก เครื่องจะทำงานและสามารถผลิตออกซิเจนออกมาได้ทันที
  • ประหยัดเวลา – ไม่ต้องเสียเวลาเติมก๊าซเมื่อก๊าซต่างจากถังออกซิเจนที่มีปริมาณก๊าซจำกัด ต้องเติมเมื่อใช้หมด
  • ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว – เมื่อเอาไปเปรียบเทียบราคากับถังออกซิเจน แน่นอนว่าเครื่องผลิตออกซิเจนจะมีราคาที่แพงกว่า แต่มันคือการลงทุนครั้งเดียวแล้วจบ ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อความแตกต่างระหว่างเครื่องผลิตออกซิเจนและถังออซิเจน
  1. จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าในการให้เครื่องทำงานเครื่องผลิตออกซิเจนจะทำงานก็ต่อเมื่อมีกระแสไฟฟ้า ผู้ป่วยที่ใช้งานเครื่องผลิตออกซิเจนและต้องให้ออกซิเจนตลอดเวลา จึงจำเป็นต้องมีถังออกซิเจนรองรับหากเกิดไฟฟ้าดับ
  2. ไม่สามารถใช้ระหว่างเดินทางได้ – เป็นอีกหนึ่งข้อความแตกต่างระหว่างเครื่องผลิตออกซิเจนและถังออกซิเจน โดยเครื่องผลิตออกซิเจนเหมาะกับการใช้งานภายในบ้าน ไม่เหมาะกับการพกพาไปข้างนอก เนื่องจากต้องใช้ไฟฟ้า และเครื่องมีขนาดใหญ่ แต่ในปัจจุบัน มีเครื่องผลิตออกซิเจนขนาดพกพา ที่สามารถใช้งานกับแบตเตอรี่รถยนต์ออกมาวางขาย

ถังออกซิเจน

คือ  ถังที่บรรจุก๊าซออกซิเจน ใช้สำหรับรักษาผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ ก๊าซออกซิเจนในถังจะมีความเข้มข้นอยู่ที่ 99% เป็นตัวช่วยให้ออกซิเจนในเลือดของผู้ป่วยอยู่ในระดับที่เหมาะสม
 

ข้อดีของถังออกซิเจน

  • มีค่าความบริสุทธิ์ของออกซิเจนสูงกว่า – ความเข้มข้นของออกซิเจนจากถังออกซิเจนจะอยู่ที่ 99%
  • เหมาะกับการใช้งานนอกสถานที่ – ด้วยความที่ถังออกซิเจนมีให้เลือกหลายขนาด หลายไซส์ ทำให้มีความสะดวกในการเคลื่อนย้ายหรือใช้งานนอกสถานที่ เช่น บนรถพยาบาล สถานที่จัดกีฬา สถานที่จัดคอนเสิร์ต เป็นต้น 
ข้อเสียของถังออกซิเจน
  1. เสียเวลาในการเติมก๊าซ – เนื่องจากถังออกซิเจนจำกัดความจุของก๊าซในแต่ละถัง ทำให้ต้องเติมก๊าซบ่อยๆ และค่าก๊าซไม่คงที่ในแต่ละวัน
  2. ค่าใช้จ่ายสูงกว่าเครื่องผลิตออกซิเจนในระยะยาว – อย่างที่แจ้งไปว่าค่าก๊าซในแต่ละวันไม่เท่ากัน แล้วยังต้องเสียค่าเดินทางไปเติมก๊าซ ค่าขนส่ง ซึ่งถ้านำรายจ่ายมาบวกัน การซื้อเครื่องผลิตออกซิเจนแบบพกพาจะประหยัดมากกว่า 

สรุปความแตกต่างระหว่างเครื่องผลิตออกซิเจนและถังออกซิเจน

เครื่องผลิตออกซิเจน ทำงานเหมือนเครื่องปรับอากาศ โดยจะดูดอากาเข้าไป ปรับเปลี่ยนและปรับปรุง จากนั้นจึงค่อยส่งอากาศออกมาในรูปแบบออกซิเจน เครื่องผลิตออกซิเจนเหมาะกับผู้ป่วยที่มีระดับออกซิเจนต่ำ ตัวเครื่องผลิตออกซิเจนมีความสม่ำเสมอในการให้ออกซิเจน ในเรื่องความปลอดภัย เครื่องผลิตออกซิเจนปลอดภัยกว่าถังออกซิเจน ถังออกซิเจนมีโอกาสรั่วได้ และเมื่ออากาศอิ่มตัวของออกซิเจนอาจทำให้เกิดไฟไหม้ขึ้นได้ 
 
ส่วนถังออกซิเจน ไม่ต้องใช้แบตเตอร์รี่หรือพลังงานจากไฟฟ้าก็สามารถให้ออกซิเจนได้ และยังไม่มีเสียงรบกวนขณะให้ออกซิเจนกับผู้ป่วย และถ้าใช้งานในระยะสั้น ถังออกซิเจนมีราคาที่ถูกกว่าเครื่องผลิตออกซิเจน เคลื่อนย้ายสะดวก 
 
ด้วยความที่เครื่องผลิตออกซิเจนและถังออกซิเจนมีความคล้ายกันมากและก็มีความแตกต่างกันมากเช่นกัน แต่สิ่งสำคัญคือ มันให้ออกซิเจนกับผู้ป่วยเหมือนกัน สิ่งสำคัญในการเลือกซื้ออุปกรณ์ให้ออกซิเจนนั้นจึงขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานของผู้ป่วยเป็นหลัก 
 
ที่ Fasicare เราเป็นผู้นำด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์ เตียงผู้ป่วย อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก สินค้าสำหรับผู้สูงอายุ  รถเข็นไฟฟ้า เตียงผู้ป่วยไฟฟ้า ที่นอนป้องกันแผลกดทับ รถเข็นหัดเดิน เรามีช่องทางการซื้อที่หลากหลายและสามารถสั่งซื้อสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง และเรายังมีทีมงานมืออาชีพที่คอยให้คำแนะนำแก่ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าได้สินค้าได้ตรงจุดประสงค์การใช้งาน และอยู๋ในงบประมาณที่ตั้งไว้ หากสนใจสินค้าของเรา สามารถเข้าไปดูได้ที่ www.fasicare.com 
 
เราหวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับผู้อ่านทุกท่าน การเลือกซื้อสินค้าไม่ว่าชนิดใดก็ตาม ปัจจัยหลักที่ต้องคำนึงถึงก็คือ วัตถุประสงค์ในการใช้งาน งบประมาณ และตัวแทนจำหน่ายที่ได้มาตรฐาน หากมี 3 สิ่งนี้ รับรองได้ว่า คุณจะได้สินค้าคุณภาพ ที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ในราคาที่เหมาะสม 
 
 

https://fasicare.com
โทร : 0-2019-1388 (ต่อ 10 , 11)
สายด่วน : 086-300-2582, 096-935-7475
Line ID : @fasicare
Facebook: https://www.facebook.com/fasicare
E-mail: [email protected]
Instagram : https://www.instagram.com/fasicare
Youtube : https://www.youtube.com/fasicareshop